วิธีที่ผมใช้หาเงินผ่านเน็ตจาก Affiliate Program ได้มากที่สุด
ในบทความที่ผ่านมาของเว็บไซต์ Passiveincome.in.th ผมมักจะเน้นไปที่ การแปลเนื้อหาของเทคนิค วิธีการหาเงินของฝรั่ง (ใครสนใจสามารถอ่านย้อนหลังทั้งหมดที่นี่) ซึ่งเป็นวิธีที่ผมได้อ่านมาจาก Webboard ด้าน Internet Marketing ต่างๆที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งจากการอ่านและทดลองผมได้พบว่า มีส่วนประกอบหลัก 3 อย่างสำหรับการทำ Internet Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
- ต้องมี Advertiser หรือ เจ้าของสินค้าที่ดี (ทั้งแบบ In-House Affiliate หรือ Affiliate Network ต่างๆ) เช่น มีระบบการจัดการที่ดี, มีความซื่อสัตย์ต่อ Affiliate, ผลตอบแทนที่เป็นค่าคอมมิชชั่นไม่ต่ำจนเกินไป เป็นต้น โดยผมจะหาข้อมูล Feedback จากคนที่เคยทำ Affiliate Program กับ Advertiser เจ้านั้น (หาจาก Google ว่ามีคนคอมเมนต์ไว้อย่างไรบ้าง โดยใช้การค้นหาด้วยชื่อ Advertiser + Affiliate + Scam) เพื่อการตัดสินใจ
- ต้องมีสินค้าและมีเว็บไซต์ปลายทาง(Landing Page) ที่ดี เว็บไซต์ต้องสวย ดูแล้วน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเปลี่ยน Traffic (คนที่เข้ามาที่เว็บไซต์) ที่เราส่งเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Advertiser ให้กลายเป็นลูกค้า หรือ ปิดการขายได้นั่นเอง
- ต้องมีแหล่งทราฟฟิคที่ดี (คนที่เราจะส่งไปที่เว็บไซต์ของ Advertiser) ทีมีการซื้อสินค้า หรือ กระทำสิ่งใดๆที่ทาง Advertiser สร้างเงื่อนไขไว้ในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับเรา เช่น กรอกแบบฟอร์ม (CPA) หรือ ซื้อสินค้า (CPS)
จากส่วนประกอบหลัก 3 อย่างข้างต้น ผมจะมีรายละเอียดการทำงานดังนี้
ปล. เคสตัวอย่างทั้งหมดเป็นตลาด ที่ผม “กำลังจะ” เข้าไปทำนะครับ มีข้อมูลในหัวเรื่องนี้พอดี เลยจับมาเป็นกรณีตัวอย่าง
1. การหา Advertiser ที่ดี : Affiliate Program ที่ผมใช้อยู่ส่วนใหญ่เป็น In-House Affiliate นะครับ (เจ้าของสินค้าทำระบบ Affiliate ของตัวเองไม่ผ่าน Affiliate Network ตัวกลาง) ซึ่งวิธีการที่ผมใช้ในการค้นหา Advertiser สำหรับการขอเข้าร่วมเป็น Affiliate ผมเคยเขียนอธิบายแบบละเอียดแล้วในบทความก่อนหน้านี้ ใครยังไม่อ่านเชิญที่นี่คับ => สอนหาแหล่งตกปลาเอาไว้หาเงินจาก Affiliate ทั่วโลก
แนวคิดของผมจะแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ที่เน้นไปที่การหา Advertise จาก Affiliate Network หรือ Advertiser เจ้าใหญ่ๆ ทีมีคนทำ Affiliate กันเยอะๆ (ได้เรื่องความน่าเชื่อถือแค่คู่แข่งก็เยอะครับ) แต่ผมเลือกเดินทางที่มีคนน้อยกว่า มันอาจมีเสี่ยงมากกว่าในหลายๆเรื่องและลำบากมากหน่อยในการหาข้อมูลต่างๆในงระยะเริ่มต้น มีปัญหาอะไรก็ต้องหาข้อมูลเอง แก้ปัญหาเอง แต่พอผ่านไปซักระยะเมื่อเราเข้าที่เข้าทางแล้ว ผมมองว่ามันสบายกว่าการที่ต้องมาแข่งกับคนเยอะๆครับ เหมือนการค่อยเก็บสะสมรายชื่อเจ้าของสินค้า Advertiser ที่ดีๆ ไปเรื่อยๆ ทดสอบไปเรื่อยๆ วันนึงเราก็จะ Jackpot เจอ Advertiser หรือกลุ่มตลาดทำเงินไปเองครับ ^___^
ในการค้นหาผมจะทำการค้นหา Advertiser เป็นกลุ่มๆ ครับ เช่น กลุ่ม Advertiser ที่มีสินค้าเป็น WordPress Theme(เว็บไซต์ขาย Web Template) ผมก็จะเริ่มทำการเก็บรายชื่อเว็บไซต์ , รายละเอียดการสมัคร , ค่าตอบแทนของแต่ละเว็บไซต์ รวบรวมใส่ Excel เก็บไว้ ประโยชน์ของการค้นหาแบบเป็นกลุ่ม คือ เรื่องของการสร้างเว็บไซต์ในการสมัครขอเป็น Affiliate ช่วยโปรโมตสินค้าครับ สร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าขึ้นมา 1 เว็บไซต์จะสามารถใช้สมัครเป็น Affiliate กับ Advertiser เจ้าของสินค้าหลายๆเจ้าได้เลย สมมุติว่าตอนนี้ผมมี List รายชื่อของ Advertiser เจ้าของสินค้า อยู่ 10 เว็บไซต์
ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำ ก็คือ สร้างเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เีกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อจะใช้เว็บไซต์นี้ในการสมัครเป็น Affiliate ซึ่งเกือบทุก Advertiser จะขอดูข้อมูลเว็บไซต์ของเราในการพิจารณาการรับเราเป็น Affiliate ของเค้า ผ่านไม่ผ่านก็อยู่ที่รายละเอียดในจุดนี้ครับ
ขั้นตอนการทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อใช้ในการสมัครเป็น Affiliate
- จดโดเมน โดยเลือกที่ชื่อสื่อถึงกลุ่มสินค้าที่เราต้องการจะทำ เช่น WordPresstips.com ชื่อบอกตรงตัวว่าในเว็บมีเนื้อหาเกี่ยวกับ WordPress ซึ่ง User ของเว็บก็ต้องเป็นคนที่ใช้ WordPress ซึ่งสามารถนำไปใช้สมัครเป็น Affiliate ในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ WordPress ได้ครับ ( เช่น WordPress Theme , WordPress Plugin )
- ทำการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องลงใน wordpresstips.com เพื่อความรวดเร็วผมจะใช้การ Copy เนื้อหาของเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 30 บทความ เช่น copy เนื้อหาจากเว็บนี้ Wpbeginer.com
- ทำการปรับแต่ง Theme ของเว็บไซต์ให้ดูดี เพราะเราต้องใช้เว็บนี้สมัครเป็น Affiliate เค้าจะได้รับเราง่ายขึ้นเว็บนี้เราทำเน้นสวยเพื่อเอาไว้ใช้สมัครเป็น Affiliate เท่านั้นครับ
- ทำการกรอกข้อมูล สมัครเป็น Affiliate กับทั้ง 10 Advertiser
- ขั้นตอนสุดท้าย คือ รอการ Approve จาก Advertiser หลังผ่านการอณุมัติแล้ว แล้วเราก็จะได้ Link ที่มี Affiliate Tracking ID ให้เราใช้ในการโปรโมตสินค้า ( Affiliate Link)
ในบางครั้งเราจะเจอว่ามีบาง Advertiser ที่ทำระบบ In-House Affiliate ของตนเองไปพร้อมกับใช้ระบบของ Affiliate Network ไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ค่าคอมมิสชั่นหากสมัครจาก In-House จะได้รับมากกว่าสมัครทาง Affiliate Network
2. การหาสินค้าที่ดี และ เจ้าของสินค้ามีเว็บไซต์ที่สามารถเปลี่ยนคนเข้าเว็บให้เป็นลูกค้า (สวย & เก่ง) :
- สินค้าที่ดี สำหรับผมแล้วต้องมีการแข่งขันสูง! ต้องมีคู่แข่งทางธุรกิจเยอะ เช่น กรณีของเว็บไซต์ขาย WordPress Theme เป็นต้น (การเจริญเติบโตของ Online Business ในปัจจุบันได้สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในโลกออนไลด์ขึ้นมาหลายประเภทครับ เช่น Codecanyon.net ที่มี Digital Product ขายอยู่มากมายหลายชนิดแล้ว เราสามารถนำกลุ่มของสินค้าในเว็บใหญ่ๆ แบบนี้ ไป Research เพื่อค้นหาหา Advertiser อื่นๆที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้ ซึ่งมีเว็บไซต์ต่างๆ มากมายที่มีการเปิด In-House Theme Shop ขายกันอยู่ในปัจจุบัน “เป็นสัญญาณบอกว่ามันเป็นสินค้าที่ดี เป็นตลาดทำเงินหากสามารถหาวิธีเจาะเข้าไปได้” ถ้าสามารถหาทราฟฟิคตรงกลุ่มได้ มันขายดีมากแน่ๆสินค้ากลุ่มนี้ (ข้อดีของ สินค้า Digital Product คือ ซื้อปุ๊ปได้ไฟล์ทันทีและส่วนใหญ่มีการรับประกันสินค้า)
- เว็บไซต์ที่ดี ต้องมีการออกแบบที่สวยงามและดูน่าเชื่อถือ การเลือกใช้สีที่เข้ากับสินค้าภายใน การตัดสินใจว่าสวยหรือไม่ให้เปรียบเทียบกับเว็บไซต์ของ Advertise อื่นๆ ที่อยู่ในตลาดเดียวกันครับ เช่น เปรียบเทียบหน้าตาของเว็บไซต์ที่ขาย Theme ทุกเว็บที่เรามีในรายชื่อทั้งหมด ให้สังเกตุความฉลาดของการออกแบบด้วยครับ เช่น รายละเอียดสินค้าชัดเจน ปุ่มกดสั่งสินค้าเห็นชัด ขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยากมั้ย (ลองกดออเดอร์เล่นๆ แบบไม่กรอกข้อมูลจ่ายเงินไปก็ได้ครับ) ที่สำคัญเลย คือ มีโปรโมชั่นพิเศษอะไรมั้ยมั้ย! สุดท้ายให้เราตัดสินใจว่าถ้าเราเป็นลูกค้าเราจะไม่ซื้อสินค้ากับเว็บไหน? ก็ทำการลบเว็บนั้นออกจาก List ของเราไปครับ
- 1. Paid Traffic ทราฟฟิคที่เสียเงินซื้อมา เช่น ลงโฆษณาแบนเนอร์, Facebook Ads , ทำ Pay Per Click , เป็นต้น
- 2. Organic Traffic คือ ทราฟฟิคที่ได้จาก Search Engine (Google Yahoo Bing) คนค้นหาสิ่งที่ต้องการแล้วเจอเว็บไซต์ของเรา (Search Engine Marketing) ซึ่งการที่คนจะเจอเว็บของเราที่ Search Engine นั้นต้องอาศัย การทำ Search Engine Optimization
สำหรับผมเน้นทาง Organic Traffic อาศัยการทำ SEO แบบง่ายๆ ครับ โดยเน้นทำแบบจำนวนเยอะๆ แทนการไปโฟกัสอยู่กับการทำอันดับที่คีเวิดตัวใดตัวหนึ่งครับ ซึ่งผมมองว่าเราต้องแยกให้ออกว่าเกมส์ที่เรากำลังเล่นเป็นเกมส์ประเภทไหน เราควรจะทำเว็บแบบไหนเพื่อเข้ามาแข่งขัน “เว็บคุณภาพ” หรือ เว็บที่สร้างเนื้อหาออกมาจำนวนมากที่เรียกกันว่า “เว็บปั่น” ซึ่งผมจะทำการ ปั่นก่อนเสมอเพราะเว็บปั่นมันทำได้ง่ายกว่า (มีบ้างที่ทำทั้ง 2 แบบพร้อมๆกัน) หลายๆคนร้องยี๊ เมื่อพูดถึงการทำเว็บปั่นทั้งๆที่ไม่ได้เข้าใจมันดีพอ ^___^ คนส่วนใหญ่ไปหลงติดกับดักของคำว่า “ต้องเว็บคุณภาพ” (ทั้งๆที่จริงๆ แล้วที่ทำออกมามันก็ไม่ได้มีคุณภาพ) น่าเสียดายโอกาสครับ เพราะอย่างที่บอกเราสามารถทำทั้ง 2 แนวทางพร้อมๆกันได้
“Google ไม่ได้ห้ามทำเว็บคุณภาพ โดยใช้เงินจากเว็บปั่น” by Matt Cutt
แนวทางการหาทราฟฟิคจาก Search Engine ของผม
- คีเวิดที่ใช้สำหรับนำมาสร้างเนื้อหา : หาได้เท่าไหร่ ผมใช้ทั้งหมดครับ คีเวิดหาได้จาก Keyword Tools และ ชื่อสินค้า
- เน้นที่จำนวน คือ 1 Web ผมจะสร้างให้มีจำนวนหน้าเยอะเท่ากับ = จำนวนคีเวิด ที่ใส่ในเว็บครับ (1 Keyword สร้างเนื้อหาออกมา 1 หน้า ) ที่เน้นเยอะเพราะ 1 Hosting ผมทำแค่ 1 เว็บไซต์เท่านั้น (เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม อ่านไปเรื่อยๆ คับ)
- ลืมคำว่าคุณภาพไปก่อน เนื้อหาไม่ต้องดีมากนัก บ่อยครั้งที่มีเนื้อหาที่อ่านไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำ สาเหตุเพราะผมไม่ได้ต้องการให้คนเข้ามาอ่าน! ผมต้องการให้คนเข้ามา แล้วรีบๆ คลิกผ่าน Affiliate Link เข้าไปยังเว็บไซต์ของ Advertiser
- การทำ SEO ในแบบของผม คือ การไม่ทำ Backlink โดยจะอาศัยแค่ Onpage SEO + Domain Authority เท่านั้นจะไม่มีมีการยิง Backlink ใดๆ เข้ามาเพื่อดันอันดับครับ สาเหตุเพราะด้วยหน้าเว็บที่มีเยอะ (จำนวนคีเวิดเยอะ) ทำให้ไม่สามารถมานั่งทำ BL ให้ทีละหน้าได้อย่างแน่นอน
- หลังจากทำเมื่อทำเว็บ ที่มีการติด Affiliate ของเราเสร็จแล้วต้องจัดการทำให้แต่ละหน้า Index ใน Google ผมใช้เครื่องมือช่วยที่ชื่อ Instantlinkindexer หลังจากทำให้เว็บ Index ไปแล้วที่เหลือ คือ ตรวจสอบทราฟฟิค เช็ค Stats และการแก้ไขในกรณีของการเกิดความผิดพลาดบางอย่าง
“อ่านมาถึงตรงนี้คงทราบแล้วว่า เว็บปั่น คือ วิธีที่ผมใช้ทำเงินได้มากที่สุด!”
- Onpage SEO ของเว็บไซต์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ => วิธีทำ On-Page SEO อย่างไรถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์แบบ
- Domain Authority (DA) สำหรับผม DA เหมือนเป็นค่าความเชื่อถือได้ของเว็บไซต์ซึ่งมีค่าอยู่ระหว่า 1-100 ครับ ยิ่งมากยิ่งดีสำหรับค่า DA ในการที่คนค้นหาด้วย Keyword ใดๆ มันเปรียบเสมือนการที่เราไปถาม Google ว่าเว็บไซต์ไหน ที่มีข้อมูลเรื่องนี้อยู่บ้าง Google ย่อมแนะนำเว็บที่มีค่า DA มากกว่าครับ (กรณีที่ผมทำผมตัดปัจจัยต้อการจัดอันดับ SEO ของ Backlink ทิ้งไปเลยนะครับ ในความเป็นจริง Backlink มีผลต่อการทำอันดับ)
ตัวอย่างผลจากค่า DA : หลายๆคนที่ทำเว็บไซต์คงเคยมีประสบการณ์โดน Copy เนื้อหาของเว็บไซต์แล้วนำไปโพสที่เว็บอื่น โดนแบบนี้ยังเจ็บไม่เท่าพบว่า Google ให้อันดับกับเว็บไซต์ที่ขโมยเนื้อหาเราไปอยู่อันดับดีกว่าเว็บไซต์ของเรา นี่หละครับผลจากค่า Domain Authority รูปด้านล่างเป็นตัวอย่างการวัดค่า DA ของ 3 เว็บไซต์ครับ
สำหรับโดเมนจดใหม่ที่เริ่มทำการสร้างเว็บใหม่ย่อมมีโอกาสน้อยที่จะชนะเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูงๆ หากแข่งในคีเวิดเดียวกันโดยไม่อาศัย Backlink ช่วยในการทำอันดับ แต่เรื่องของ DA มันไม่ได้มีแค่ด้านไม่ดีอย่างเดียวครับ มันอยู่ที่ว่าเราเลือกที่จะเสียเปรียบหรือเลือกที่จะได้เปรียบคับ! ซึ่งผมและหลายๆคนที่กำลังอ่านบทความนี้ ก็ได้เลือกอย่างหลังโดยอาศัยข้อได้เปรียบในส่วนนี้ทำการเว็บไซต์บนเว็บไซต์ทีมี DA สูงๆเหล่านั้นซะเลย คุ้นกับเว็บไซต์พวกนี้มั้ยครับ => Google Site , Facebook Note , Facebook Fanpage , Blogspot , BlogFree ต่างๆ ทั้งหมดนี้ คือ Authority Domain ที่ถูกนำมาใช้สร้างทราฟฟิคให้กับการทำ Affiliate Marketing ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่การทำเว็บบน Authority Domain ที่กล่าวไปนั้นไม่ได้มีแต่ข้อดีนะครับ ข้อเสียก็มี
มีข้อเสียที่สำคัญ คือ เราไม่สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ด้าน SEO (Onpage SEO) และ การปรับแต่งเพื่อประโยชน์ต่อลูกค้า ซึ่งมันทำให้ค่า Conversion (การทำให้คนที่เข้าเว็บของเว็บไซต์คลิกปุ่มกดที่เราแทรก Affiliate Link ไว้ต่ำมากๆ ผมเคยลอง Track ผลที่ได้ปรากฎว่าจากคนเข้าเว็บไซต์ทั้งหมด 100 คนมีไม่ถึง 10 คนที่ทำการคลิกลิงค์ของเรา (10% Click Rate) แบบนี้เสียโอกาสไปเยอะมากนะครับ (เปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่ทำการปรับแต่งอย่างดีปุ่มกดแบบเดียวดันซึ่งมีค่า Conversion ถึง 50% ต่างกัน 5 เท่าเลย) ซึ่งเว็บคู่แข่งที่มีอันดับของผลการค้นหาต่ำกว่าเว็บของเรา ก็จะได้รับทราฟฟิคที่ออกจากเว็บของเราไปแทน นานวันเข้าๆ อันดับของเราก็จะเริ่มตกลงมา เพราะ Google มีการตรวจจับข้อมูลเรื่องนี้ด้วยนะครับ เป็นหนึ่งใน Factor ของ Search Algorithm เสมือนการใข้คนจริงๆ วัดคุณภาพเว็บไซต์ของผลการค้นหา)
แต่ทุกปัญหามีทางแก้ครับ มันเกิดจากความบังเอิญครับ บังเอิญที่ผมไป Search เจอเว็บ Blogs เล็กๆเว็บนึง (เว็บภาษาไทยซะด้วย) โชคดีที่ผมสังเกตุเห็น URL ของ Blog แล้วเกิดสงสัยว่ามันเป็น Sub-Domain ของโฮสติ้งเจ้านึงนี่หว่า แล้วเจ้าของเอามาทำบล็อคได้ยังไง ^___^ หลังจาก Research ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ผมเจอเว็บโฮสติ้งอีกหลายแห่งรวมแล้วทั้งหมด 7 แห่งที่สามารถเข้าไปทำเว็บไซต์บน Sub-domain ของโดเมนหลักได้เลย ถึงไม่ฟรีแต่โคตรคุ้มครับ! เพราะได้ประโยชน์ทั้งจากค่า Domain Authority ของโดเมนหลักและสามารถปรับแต่ง Template ของเว็บไซต์เองได้ทั้งหมด (ไม่ใช่ Temporary URL เหมือนที่หลายๆคนปั่นที่ Hostgator กันนะครับ)
คุ้มไม่คุ้ม? ดูผลลัพธ์ Commission จาก Advertiser เจ้านึงที่ผมเพิ่งเริ่มทำได้ไม่นาน ดูรูปแล้วก็ลืมๆ ไปนะครับ (ขอไม่ตอบคำถามเกี่ยว Advertiser และ ยอดเงินนะครับ ( ^__^ )
จากเนื้อหาที่ผ่านมาตอนนี้ก็ทราบรายละเอียดของส่วนประกอบหลักทั้ง 3 อย่าง ครบแล้วนะคับ ^___^
- มี Advertiser หรือ เจ้าของสินค้าที่ดี => บทความวิธีหา Advertiser
- มีสินค้าที่ดี และ เว็บไซต์ต้องดูดี สวย น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเปลี่ยน Traffic (คนที่เข้ามาที่เว็บไซต์) ที่เราส่งเข้าเว็บมาให้เกิดเป็นลูกค้า หรือ เกิด Sale
- ต้องมีแหล่งทราฟฟิคที่ดี (เว็บไซต์ที่สามารถทำอันดับได้ดีที่ Google)
สรุปแนวทางทั้งหมดที่ผมใช้ในการปั่น
- ค้นหา Advertiser สินค่าที่มีระบบ In-House Affiliate ของตนเอง สมัครเป็น Affiliate
- เตรียมข้อมูล Keyword , รายละเอียดสินค้า , Web Template
- เริ่มทำเว็บไซต์บน Sub-Domain ของ WebHosting อาศัยข้อได้เปรียบเรื่องของค่า Domain Authority และ การปรับ SEO Onpage ทำให้เว็บที่ทำสามารถมีอันดับบน Sarch Engine สำหรับคีเวิดที่มีการแข่งขันไม่สูงมาก (คีเวิดที่ไม่ต้องอัด Backlink แข่งกัน)
- สคริปที่ใช้เป็นสคริปส่วนตัวครับ
- หลังจากเว็บสร้างเสร็จ จัดการดึงข้อมูล URL ของทุกหน้าเพจออกมาเป็นรายชื่อ จะนั้นทำทุก URL ของหน้าของเว็บไซต์ให้ Index ด้วยใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า instantlinkindexer.com (เช่ารายเดือน)
ปล. 1 ผมขอไม่ตอบคำถามแบบนี้นะครับ ทำได้เดือนละเท่าไหร่? ทำสินค้าของเจ้าไหน? อยากรู้คุณต้องไปลองทำดูครับ
ปล. 2 ได้เงินมาแล้ว “อย่าลืมแบ่งส่วนนึงไปทำบุญเสมอนะครับ” โชคดีในชีวิตเราส่วนนึงที่เกิดขึ้นได้ ผมเชื่อว่ามาจากการทำบุญทำทานครับ ^____^
ปล. 2 ได้เงินมาแล้ว “อย่าลืมแบ่งส่วนนึงไปทำบุญเสมอนะครับ” โชคดีในชีวิตเราส่วนนึงที่เกิดขึ้นได้ ผมเชื่อว่ามาจากการทำบุญทำทานครับ ^____^
โชคดีขายของได้เยอะๆทุกคนครับ
Meaw-IE
Meaw-IE
$$รวมลิ้งเว็บงานออนไล์ และคอสสอนการทำงานออนไลน์ ไม่ลองไม่รู้ อิสระทางการเงิน$$
การฝึกอบรมฟรี:"วิธีสร้างรายได้ออนไลน์ 6 รูป"
$ 78 - $ 922 ต่อวัน สร้างรายได้ด้วยระบบนี้!"
สร้าง eBooks & รายงานที่น่าอัศจรรย์ใน5 นาทีโดยไม่ต้องพิมพ์คำใด ๆ !
คุณจะได้รับมากถึง $ 14,444 ต่อวันฟรี
ค้นพบ 7 วิธีในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและไม่หยุดนิ่งเพื่อชีวิต
$ 2,293.26 ต่อวันจากแล็ปท็อปของฉัน
สร้างความสนุก , กำไรและรางวัลธุรกิจออนไลน์ ...
รับส่วนลดมากมายมีเวลา จำกัด เท่านั้น! นำรายได้ใหม่มาสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่
เคล็ดลับที่ดีที่สุด 5 ปีที่ผ่านมาเรามีรายได้มากกว่า $ 100,000 - ออนไลน์ทั้งหมด
สร้างเงินสดในแต่ละเดือน การวางแผนและกลยุทธ์ทางธุรกิจออนไลน์
ทำรายได้$ 11k ต่อวัน ลงทะเบียนตอนนี้เพื่อรับฟรี 48 ชั่วโมง
ความลับสู่รายได้ที่มั่นคง 100% รายได้ที่ไม่หยุดนิ่งโดยอัตโนมัติตลอดไป
ทำเงินได้มากกว่า$ 7,293 ต่อเดือนจากที่บ้านเพื่อทำงานจริงออนไลน์!
วิธีที่ไม่มีความเสี่ยงในการสร้างถึง$ 250 $ 500การชำระเงินหลายครั้งต่อวัน!
ชุดเครื่องมือ All-in-One จากการวิจัยคำหลักและการวิเคราะห์ลิงก์ย้อนกลับเพื่อจัดอันดับการติดตาม
เข้าถึงอิสรภาพทางการเงินของคุณ ทำงานได้จากทุกที่
เพิ่มรายได้พันธมิตรของคุณด้วยสคริปต์โบนัส ClickBank
การสร้างบัญชีอัตโนมัติ เกือบจะทันทีสร้างบัญชี 1,000 บัญชีได้ทันที
นี่เป็นโอกาสของคุณที่จะได้รับ ข้อเสนอพิเศษ นี้เท่านั้น!
โบนัสพิเศษ ... รับ JVNewsWatch แรกของคุณที่เปิดตัวรายชื่อปฏิทินฟรีแน่นอน( มูลค่า $ 47 )
เริ่มต้นทันทีด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างรายได้ออนไลน์แบบออนไลน์
ความสำเร็จออนไลน์!
ฟรีเวิร์คช็อปออนไลน์วันนี้
ความสำเร็จออนไลน์! เพียงแค่ $ 1
ค้นพบกลยุทธ์พันธมิตรออนไลน์ใหม่ที่แทบไม่มีใครรู้เรื่อง
ค้นหาคำหลักที่มีการแข่งขันต่ำสำหรับเว็บไซต์
การฝึกอบรมวิดีโอฟรี
ลงทุนด้วยตัวเองเพียงคลิกที่ปุ่มด้านล่าง
คุณสามารถเพิ่มเว็บไซต์เพิ่มเติมได้อีก 100 รายการทันที
เข้าร่วมการฝึกอบรมฟรี 100%
Clicksure ค่าคอมมิชชั่นพันธมิตรที่ $ 21
$ 2,293.26 ต่อวันจากแล็ปท็อปของฉัน
รางวัลธุรกิจออนไลน์
ทำไมต้องใช้ ClickBank
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเรามีรายได้มากกว่า $ 100,000 - ออนไลน์ทั้งหมด
ฉันรู้สึกประหลาดใจเมื่อเพื่อนของฉันแสดงเช็คให้ฉันเป็นเงิน $ 300 ซึ่งฉันได้รับ
ฉันสร้างรายได้ล้านล้านครั้งแรกทางอินเทอร์เน็ตและคุณทำได้เช่นกัน!
สร้างรายได้ แบบเต็มเวลาบน Youtube โดยไม่ต้องทำวิดีโอ
ผลักดันยอดขายของคุณที่พุ่งสูงขึ้น วิธีการของฉันจะช่วยให้คุณปลดปล่อยตัวเองจาก
ธุรกิจของคุณ
จ่ายค่าคอมมิชชั่น Montly ที่ $ 97 / เดือนหลังการทดลอง!
เปิดเผยกลยุทธ์ในการปรับขนาดโฆษณา Youtube จาก $ 0 ถึง $ 100k / เดือน
ปรับปรุงอันดับเครื่องมือค้นหาของเว็บไซต์ของคุณ
คุณต้องการสร้างรายได้จากอินเทอร์เน็ตมากกว่าที่คุณทำอยู่ตอนนี้หรือไม่
สร้างแคมเปญโฆษณาที่สร้างผลกำไรของตัวเอง
นี่คือเคล็ดลับในการเป็นนักเขียนคำโฆษณาที่ยอดเยี่ยมสร้างรายได้อย่างยอดเยี่ยมจากงานเขียนของคุณ
All-In-One Social Media และการตลาดผ่านอีเมล! เผยแพร่ไปยังบัญชีโซเชียลและอีเมลลูกค้าเป้าหมายทั้งหมดในครั้งเดียว!
3,000 เหรียญต่อเดือน โดยใช้โฆษณาทางอินเทอร์เน็ตและทีวี
คุณกำลังดิ้นรนเพื่อเริ่มต้นใช้งานหรือไม่? นี่คือเครื่องมือทางการตลาดสำหรับพันธมิตรที่ดีที่สุด
อิสรภาพทางการเงิน ประสบความสำเร็จเพียงหนึ่งเดียว
ทำจากรายได้จริง
ลองนึกภาพตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและดูว่ารายได้ของคุณเพิ่มขึ้น สร้างผลกำไรที่ยอดเยี่ยม
LinkPipeline ถูกสร้างขึ้นสำหรับนักการตลาดอินเทอร์เน็ตทุกระดับ
เพียง $ 1 โบนัส จำกัด เวลา: ฟรีโฮสติ้งและซอฟต์แวร์พรีเมียม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น